marinerthai

หมู่เกาะสุรินทร์ ความทรงจำสีคราม

าก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์  วันที่ 5 พฤศจิกายน 2553

โดย : Destination
เรื่อง /ภาพ นพพร ยรรยง

ฤดูหนาวกำลังขยับตัวเข้ามาใกล้ทุกทีๆ อีกไม่นานภาคเหนือคงกลายเป็นเมืองที่ถูกอกถูกใจคนชอบสูดไอหมอก ส่วนคนเมืองที่คิดถึงน้ำทะเลใสๆ นั้น เวลาแห่งการรอคอยกำลังจะหมดลงแล้วครับ ดินแดนแห่งความฝันของผู้หลงใหลในท้องทะเลอันดามัน กำลังจะเปิดให้คุณไปหยิบฉวยชั่วโมงแห่งความสุขกันแล้ว

หมู่เกาะสุรินทร์” คือปลายทางบนหน้ากระดาษในสัปดาห์นี้ ตัวเลขกลมๆ ของการเดินทางก็ประมาณ 7 ชั่วโมง ใน 3 พาหนะ เครื่องบิน รถยนต์ และปิดท้ายด้วยเรือ ฟังดูไม่น่าจะหนักหนาสักเท่าไร แต่เกลียวคลื่นและแรงลมกลับพร้อมใจกันมาต้อนรับเรา ทำเอาผมและเพื่อนร่วมทางหัวหมุน คลื่นไส้ อาเจียน ไปตามๆ กัน

ได้แสงสุดท้ายช่วยปลุกเรี่ยวแรงให้เราอีกครั้ง ก่อนเหยียบลงพื้นทราย หมู่เกาะสุรินทร์ ความมืดค่อยๆ ทำหน้าที่ปกคลุมสีครามของท้องทะเลแล้วปล่อยให้นักเดินทางได้หลับใหลฟังเสียงขับกล่อมจากทะเลที่ไม่เคยหลับ เพื่อเก็บเรี่ยวแรงไว้ไปช่วยกันเป็น อาสาฯ อนุรักษ์ทะเลไทย ซึ่งทาง “ทรูวิชั่นส์” ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกองทัพเรือ ได้ร่วมกันทำโครงการติดตั้งทุ่นจอดเรือเพื่อรักษาแนวปะการังขึ้น แม้เราจะไม่สามารถลงใต้น้ำได้ ก็ขอให้กำลังใจและทำอะไรที่ช่วยกันบนบกได้ก็แล้วกัน

บ่ายคล้อยๆ การออกไปดำน้ำล่องลอยในท้องทะเลสีครามก็เริ่มขึ้น หมู่เกาะสุรินทร์นั้นมีจุดดำน้ำมากถึง 14 จุด และถูกจัดให้เป็นหมู่เกาะที่มีความงดงามใต้ท้องทะเลอันดับ 5 ของโลก ด้วยเวลาอันจำกัด เราไม่สามารถไปยลโฉมทั่วทั้งหมู่เกาะได้ หวยจึงมาออกที่ อ่าวเต่า และหมู่บ้านมอร์แกน

จาก อ่าวช่องขาด จุดพักของนักเดินทาง เรามุ่งหน้าไปชมวิถีชาวมอร์แกน ซึ่งตั้งอยู่เรียบง่ายริมหาด แม้วันนี้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของพวกเขามากขึ้น แต่ความเชื่อ ความเกรงกลัวต่อธรรมชาติ ยังคอยสอนให้พวกเขารู้จักเคารพในธรรมชาติมากกว่าคนเมือง

ระดับน้ำลดลงเร็วพอๆ กับเวลาของผมในหมู่เกาะสุรินทร์ที่เหลือน้อยลงเต็มที เป้าหมายสุดท้ายในท้องทะเลจบลงที่ “อ่าวเต่า” จากคำร่ำลือว่า จุดนี้เป็นจุดดำน้ำที่สวยงามและใกล้ที่พักเรา เป็นจริงดังคำร่ำลือ ผืนน้ำใสมองเห็นถึงผืนน้ำเบื้องล่าง แม้เป็นเพียงการดำผิวน้ำ ก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว ปลาน้อยใหญ่สีสันฉูดฉาด แหวกว่ายภายใต้ปะการังอันอุดมสมบูรณ์ แม้วันนี้โชคจะไม่เข้าข้างให้ได้พบกับเต่ากระ แต่เท่านี้ก็เพียงพอกับความงามที่สายตาพึงจะเก็บไว้

แสงแดดเป็นใจให้ท้องฟ้า และผืนน้ำครามใสแสดงความงามของหมู่เกาะสุรินทร์ได้อย่างเต็มที่ทั้งวัน จรดเย็นแสงสีปลายขอบฟ้ายังคงเปิดทำการแสดงชุดใหญ่ สาดสีสันฉูดตาผ่านเกลียวคลื่นที่ซัดสาดผ่านโขดหิน ทิ้งทวนความทรงจำแสนดี แล้วผมก็หลงรักจนสัญญาว่าจะกลับมาอีกครั้ง “หมู่เกาะสุรินทร์”

Let’s go Mhu Gor Surin  – เครื่องบิน

โดยสาร เครื่องบินมาลงที่สนามบินจังหวัดระนอง หรือสนามบินจังหวัดภูเก็ต ต่อรถยนต์มายังอ.คุระบุรี จ.พังงา เพื่อขึ้นเรือยังท่าเรือคุระบุรี โดยสารเรือไปหมู่เกาะสุรินทร์ใช้เวลาประมาณ 1.30-3 ชั่วโมง บริการเรือทัวร์โดยสาร เปิดให้บริการทุกวันตลอดฤดูการท่องเที่ยว

Share the Post: