จาก หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สถานตากอากาศบางปู : พันเรื่องถิ่นแผ่นดินไทย โดย ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และคณะ
เมื่อปี พ.ศ.2480 ขณะที่นายกรัฐมนตรีจอมพล ป. พิบูลสงคราม กำลังเดินทางไปตรวจราชการที่สัตหีบ ท่านได้แวะพักระหว่างทางที่บางปู จ.สมุทรปราการ เห็นว่าชายทะเลที่นี่มีอากาศดี เหมาะแก่การเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถเดินทางมาได้โดยง่ายไม่ต้องไปไกลถึงบางแสน หรือพัทยา ท่านจึงดำริให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวขึ้นเป็นที่พักตากอากาศของบุคคลโดยทั่วไป และเปิดให้บริการในปี พ.ศ.2482
ต่อมาเช้ามืดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 สถานตากอากาศบางปูต้องหยุดให้บริการลง อันเนื่องมาจากได้ถูกกองพันทหารราบสังกัดกองพลรักษาพระองค์ ขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น ที่เดินทางมาจากเกาะฟอร์โมซาร์ (ไต้หวัน) ได้ทำการยกพลขึ้นบกที่ “สะพานสุขตา” โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ แต่ได้ถูกประชาชนชาวสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นการเดินทางเอาไว้ จึงนับเป็นวีรกรรมที่กล้าหาญอย่างยิ่งของชาวสมุทรปราการ
เหตุการณ์ครั้งนั้นตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดเป็นอันมาก โดยที่ฝ่ายไทยและฝ่ายญี่ปุ่นได้ประจันหน้ากันอยู่ อีกทั้งเครื่องบินรบญี่ปุ่นก็บินวนอยู่เหนือบริเวณบางปูตลอดเวลา ซึ่งตามแผนการของญี่ปุ่นแล้ว มุ่งที่จะไปสมทบกับกองกำลังของตนที่กรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางมาจากอรัญประเทศ กับอีกส่วนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นพลเรือนอยู่ในกรุงเทพฯ มานานแล้ว แต่ภายหลังเมื่อรัฐบาลไทยได้มีประกาศให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทางผ่านประเทศไทยไปได้ เหตุการณ์จึงยุติลงด้วยดี
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้กลับเข้ามาดำเนินการ เปิดสถานตากอากาศบางปูอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติลง ต่อมาในปี พ.ศ.2491 ได้ทำการมอบโอนให้กรมพลาธิการทหารบกเป็นผู้ดูแล และได้หมุนเวียนผ่านผู้ดูแลมาหลายหน่วยงาน จนกระทั่งถึงปี พ.ศ.2501 กรมพลาธิการทหารบกจึงได้เป็นผู้ดูแลอย่างแท้จริง นับแต่นั้นเป็นต้นมา โดยได้มีการให้บริการบ้านพักแก่ข้าราชการ และบุคคลทั่วไป มีร้านศาลาสุขใจบริการอาหารทะเลที่สดอร่อย
ประวัติสถานตากอากาศบางปู
พ.ศ. 2480
จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้ดำริให้สร้างเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับประชาชนทั่วไป เนื่องด้วยพื้นที่ติดชายทะเลและระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
พ.ศ. 2482
การดำเนินการก่อสร้างสะพานสุขตาเสร็จเรียบร้อยเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่ว ไป สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยมีอธิบดีกรมสาธารณสุขเป็นประธาน ในชื่อเรียก “สถานตากอากาศชายทะเล บางปู”
พ.ศ.2484
หยุดดำเนินการ เนื่องจากกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเพื่อใช้เป็นทางผ่านในการสู้รบกับฝ่าย สัมพันธมิตรในสงครามมหาเอเชียบูรพา
พ.ศ. 2490
เมื่อเหตุการณ์สงบลงได้เปิดดำเนินการใหม่อีกครั้งโดย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดูแล
พ.ศ. 2491
กรมพลาธิการทหารบก ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบตามลำดับ คือ กรมสวัสดิการทหารบก , กรมพลาธิการทหารบก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก,กรมพลาธิการทหารบกและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
พ.ศ. 2501
กรมพลาธิการเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ เปิดบริการขายอาหารและเครื่องดื่ม ที่บริเวณปลายสะพานสุขตา โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา06.00-20.00น. จัดดนตรีและลีลาศในวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น.จัดบริการที่พักที่ปลายสะพานสุขตา ในราคา 60-110 บาท/วัน บ้านพักบริเวณริมแนวเขื่อน 80 บาท/วัน
พ.ศ. 2505
กองทัพบกได้จัดตั้งเป็นสถานพักฟื้นและตากอากาศ กองทัพบก โดยมีคณะกรรมการอำนวยการสถานพักฟื้น และตากอากาศ กองทัพบกเป็นผู้กำกับดูแล โดยจัดแบ่งเป็นสถานพักฟื้นและตากอากาศบางปูกับสถานพักฟื้น และตากอากาศหาดเจ้าสำราญ
พ.ศ. 2512
ได้ดำเนินกิจการสถานพักฟื้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว โดยจัดให้มีการรักษาพยาบาล และฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ บำรุงขวัญ ให้แก่ทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบ ซึ่งรับจาก รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ ในชื่อเรียก” สถานพักฟื้นและพักผ่อนกรมพลาธิการทหารบก “
พ.ศ. 2533
เปิดอนุสรณ์สถานเครื่องหมายทางประวัติศาสตร์สงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก ณ สถานที่แห่งนี้ โดยมีพลเอกสายหยุด เกิดผล เป็นประธานในพิธี
พ.ศ. 2535
จากการดำเนินการมาหลายปีทำให้สิ่งก่อสร้างบริเวณร้านอาหาร และห้องพักที่ปลายสะพานสุขตาชำรุดได้ปรับปรุงห้องพักด้านขวาเป็น ” ห้องกาแฟนางนวล ” และห้องบริเวณด้านซ้ายเป็นที่รับประทานอาหาร
พ.ศ. 2536
ร้านอาหารที่ปลายสะพานสุขตาถึงคราวต้องปิดตัวลง เนื่องจากความทรุดโทรมของฐานรากอาคารชำรุดมากไม่ปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการ
พ.ศ. 2537
ดำเนินการก่อสร้างร้านอาหารชั่วคราว บริเวณริมฝั่งด้านทิศตะวันออก เพื่อบริการอาหารเครื่องดื่มจำนวน 8 หลัง เสร็จสิ้นและเปิดบริการเมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม 2537
พ.ศ. 2540
เริ่มดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมสะพานสุขตาและอาคารร้านอาหารปลาย สะพานสุขตา
พ.ศ. 2542
เนื่องจากสถานการณ์ภายในบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป การสู้รบตามแนวชายแดนลดน้อยลง ทำให้สถานพักฟื้นไม่มีทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบมาฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกาย กองทัพบกจึงได้มีคำสั่งแก้อัตรากองทัพบก โดยยุบสถานพักฟื้น คงเหลือไว้เพียงสถานพักผ่อน เปลี่ยนชื่อหน่วย จากกองอำนวยการสถานพักฟื้นและพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก เป็น กองอำนวยการสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก มีภารกิจในกิจการของทหารพักผ่อนจากกองทัพภาคต่าง ๆ ปีละ 6 ผลัด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป