marinerthai

โลกของปลาไหลใต้ทะเลลึก / วินิจ รังผึ้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2548 17:40 น.

โดย…วินิจ รังผึ้ง

ปลาไหลริบบิ้น

ในบรรดาปลาที่ไม่ค่อยจะเหมือนปลาในท้องทะเลนั้น ปลาไหลมอเรย์ คงเป็นสมาชิกหนึ่งในนั้นด้วย เพราะลักษณะรูปร่างหน้าตาของมันดูอย่างไรก็ไม่เหมือนปลา แต่กลับเหมือนงูมากกว่า

ด้วยปากและหัวทรงแหลมๆ ลำตัวยาวๆ มีตั้งแต่ยาว 1-2 ฟุตไปจนถึงตัวขนาดใหญ่ที่ยาว 2-3 เมตร เป็นปลาที่ไม่มีครีบหูหรือครีบข้างลำตัว การว่ายน้ำก็ดูคล้ายกับอาการเลื้อยไปมาของงู และก็ชอบอาศัยอยู่ตามรูหรือตามโพรงปะการัง โผล่ออกมาแต่หัวมองดูคล้ายๆกับงู แต่เจ้าปลาไหลมอเรย์ก็เป็นปลาครับ ไม่ใช่งู เพราะมันมีกระดูกสันหลังเหมือนปลา มีช่องเหงือกข้างแก้มเช่นเดียวกับปลา แม้นจะมีขนาดเล็กแต่ก็ใช้หายใจด้วยเหงือกเช่นเดียวกับปลา ไม่ได้ว่ายขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำเหมือนงูทะเล

ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูคล้ายกับงู และยังชอบโผล่หัวออกมาอ้าปากโชว์เขี้ยวขาวเรียงเป็นแถว และด้วยลักษณะของปลาที่มีช่องเหงือกเล็ก เราจึงมักจะพบเจ้าปลาไหลมอเรย์ชอบอ้าปากขึ้นลงฮุบน้ำผ่านเข้าปากเพื่อช่วยในการหายใจอยู่เสมอ ดูคล้ายกับว่ามันจะอ้าปากกว้างจ้องงับอะไรที่อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้มันเป็นปลาที่ดูน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งในท้องทะเล

แต่ในความเป็นจริงนั้น ปลาไหลมอเรย์นับเป็นปลาที่สันโดษ เป็นปลาที่รักสงบ (แต่ถึงรบไม่ขลาด) ในตอนกลางวันจะหลบนอนอยู่ในรู ในโพรงที่เป็นเหมือนบ้านอันอบอุ่น โผล่หน้าออกมาดูปลาหรือนักดำน้ำที่ผ่านไปผ่านมาเป็นระยะๆ แต่ก็มักจะไม่ชอบว่ายออกมาอวดโฉมให้เห็นทั้งตัวกันง่ายๆ

กระทั่งตกกลางคืน เจ้าปลาไหลมอเรย์ ก็จะออกจากบ้านไปทำมาหากิน โดยชอบจะว่ายเลื้อยไปมาตามซอกหลืบปะการัง และจับกินปลาที่หลบนอนนิ่งๆตามซอกหินหรือว่ายผ่านเข้ามาในเขตที่มันอยู่อาศัย เรียกว่าเป็นประเภทปลาที่ชอบเที่ยวกลางคืนก็ว่าได้ ความจริงการชอบเที่ยวกลางคืนของปลาไหลมอเรย์นักล่าที่น่าเกรงขามนั้นก็ใช่ว่ามันจะปลอดภัย เพราะหากเกิดว่ายไปเจอปลาใหญ่นักเที่ยวกลางคืนหรือนักล่ายามราตรีอย่างฉลามเฉลิมเข้า มันก็อาจจะต้องตกเป็นเหยื่อเสียเองก็เป็นได้

ปลาไหลมอเรย์นั้นมีอวัยวะพิเศษอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากปลาชนิดอื่นๆ นั่นก็คือ มีท่อรับกลิ่นทรงกรวยยืนออกมาตรงบริเวณหัวคล้ายกับท่อรูจมูกหรือคล้ายกับหนวดสั้นๆสองข้าง มันจึงเป็นปลาที่มีประสาทรับกลิ่นยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ ประเภทได้กลิ่นเหยื่อที่ล่องลอยมาจากระยะไกลอย่างสบายๆ ยิ่งเจ้าปลาไหลริบบิ้นที่มีท่อสองข้างบนหัวตรงปลายท่อยังมีรูปทรงกรวยบานออกคล้ายกับเรดาร์ จึงมีประสิทธิภาพในการรับกลิ่นและจับทิศทางการเคลื่อนไหวของเหยื่อได้อย่างดียิ่ง

แม้นจะเป็นปลานักล่าที่น่าเกรงขามซึ่งปลาอื่นๆไม่ค่อยกล้ายุ่งด้วย เพราะเจ้ามอเรย์มีฟันที่แหลมคม และบางตัวมีขนาดใหญ่ ซึ่งผมเคยดำน้ำกลางคืนบริเวณหลังเกาะสี่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันที่มีสภาพเป็นปะการังแข็งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ เมื่อส่องไฟฉายไปพบเข้ากับร่างมหึมาของมอเรย์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่เท่าๆต้นมะพร้าว ยาวกว่า 2 เมตร เลื้อยไปมาราวกับพญานาคในนวนิยาย

บอกตรงๆครับว่าถึงกับเข่าอ่อน แต่มันก็เลื้อยไปเลื้อยมา ไม่ได้สนใจอะไรกับผม สักครู่ก็เลื้อยหายลับไปใต้แผ่นปะการัง ด้วยนิสัยใจจริงแล้วปลาไหลมอเรย์เป็นปลาใจดีและเป็นมิตรกับนักดำน้ำ และไม่เคยมีประวัติการเข้าทำร้ายนักดำน้ำ ยกเว้นพวกที่มือซนเข้าไปแหย่ เข้าไปจับเนื้อต้องตัวจนมันเกิดตกใจคิดว่าจะเข้าไปทำร้าย มันจึงงับเข้าให้เพื่อเป็นการป้องกันตัว (หลายคนบอกสมน้ำหน้าอยากมือซน)

อีกครั้งที่ผมกำลังดำน้ำอยู่บริเวณกองหินริเชลิว ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำห่างจากหมู่เกาะสุรินทร์จังหวัดพังงาราว 11 กิโลเมตร มันเป็นยามเช้าที่ท้องฟ้าค่อนข้างหม่นมัวด้วยเมฆฝน สภาพใต้ผืนน้ำจึงเลยดูทึมเทาหม่นมัวไปด้วย เมื่อว่ายเวียนรอบกองหินในระดับความลึกราว 30 ฟุตอยู่ชั่วครู่ ผมก็เหลือบไปเห็นเจ้าปลาไหลมอเรย์ม้าลาย ซึ่งมีลำตัวยาวสีน้ำตาลคาดด้วยริ้วสีขาวตลอดลำตัว ว่ายออกมาจากที่ซ่อนทั้งตัว ขนาดลำตัวที่ยาวกว่า 1 เมตรของมันว่ายเวียนพลิ้วไปมาราวกับงูเลื้อย

เจ้าปลาไหลมอเรย์ม้าลายนี้เป็นปลาไหลพันธุ์ที่ค่อนข้างจะหาดูได้ยากสักหน่อย แต่เช้าวันนั้นผมกลับโชคดี 2 ต่อ เพราะนอกจากจะได้เจอตัวแล้ว ยังได้เห็นมันว่ายน้ำออกมาทั้งตัวในตอนกลางวัน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูไม่ง่ายนัก มันอาจจะยังไม่สร่างจากการออกท่องเที่ยวกลางคืน หรืออาจจะยังหาทางกลับบ้านไม่ถูกก็เป็นได้ และอาจจะด้วยสภาพแสงใต้น้ำในเช้าวันนั้นดูทึมเทา ทำให้มันคิดว่ายังไม่สว่างก็เป็นได้ มันว่ายเวียนเอาหัวมุดเข้ามุดออกโพรงนั้น โพรงนี้อยู่สักครู่ก็ว่ายมุดหายเข้าไปในโพรงปะการัง เหมือนกับเออ…ถึงบ้านเสียที ผมและช่างภาพใต้น้ำอีกคนว่ายตามถ่ายภาพของมันอย่างใกล้ชิด แต่เจ้าปลาไหลมอเรย์ม้าลายตัวนั้นก็ไม่ตื่นตกใจและดูเหมือนจะแสดงอาการไม่สนใจใยดีเสียด้วยซ้ำ

ด้วยลักษณะนิสัยของปลาไหลมอเรย์ที่ชอบอยู่ในรูแล้วโผล่แต่หัวออกมานั้น ทำให้เพื่อนนักดำน้ำบางคนล้อเล่นว่ามันอาจจะเป็นปลาที่มีแต่หัวก็ได้ เพราะเคยเห็นแต่หัวโผล่ออกมาเท่านั้น

ความจริงมีอีกวีธีหนึ่งที่จะสามารถพบเห็นเจ้าปลาไหลมอเรย์จอมขี้อายเลื้อยออกมาอวดโฉมทั้งตัวได้โดยไม่ยากก็คือการนำอาหารมาป้อน ซึ่งบริเวณเกาะหก หมู่เกาะสิมิลันนั้น เคยมีปลาไหลมอเรย์ขนาดใหญ่อยู่ตัวหนึ่งซึ่งค่อยข้างจะคุ้นเคยกับนักดำน้ำเป็นอย่างดี เพราะนักดำน้ำชอบเอาอาหารติดลงไปป้อน โดยอาหารที่มันชื่นชอบก็คือปลาหมึก ประเภทเห็นเป็นไม่ได้ ต้องเลื้อยตามออกมาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น เมื่อเคยได้อาหารจากนักดำน้ำบ่อยๆ พอเห็นนักดำน้ำกลุ่มไหนผ่านมา ไม่ว่าจะมีเหยื่อติดลงไปให้หรือไม่ เจ้าปลาไหลมอเรย์ตัวนี้ก็จะรีบว่ายออกมาประจบทันที ซึ่งนั่นเป็นอาการที่เริ่มจะขาดสัญชาติญาณการระแวงภัยของปลาไหลมอเรย์ขี้อายไปทุกที

ปลาไหลมอเรย์มีญาติพี่น้องในตระกูลเดียวกันมากมายหลายชนิดพอสมควร หน้าตาและลวดลาย สีสัน อาจจะต่างกันไป แต่เห็นปุ๊บก็พอจะรู้ได้เลยว่าเป็นปลาไหลมอเรย์ และไม่ใช่ว่าจะมีแต่ญาติพี่น้องชนิดที่หน้าตาดุดันน่ากลัวเท่านั้น

ปลาไหลมอเรย์ที่สวยๆก็มีอย่าง ปลาไหลริบบิ้น (Ribbon eel) ปลาไหลขนาดเล็กที่มีสีสันสวยงาม โดยในช่วงปลาวัยอ่อนจะมีสีดำคาดเหลือง และยังไม่สามารถระบุเพศได้ พอเติบโตขึ้นไปจนเข้าสู่วัยหนุ่ม ก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าคาดเหลืองสดใส และมีชีวิตเป็นปลาเพศผู้ กระทั่งเติบโตเต็มที่ ก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั้งตัว และเปลี่ยนเป็นเพศเมียเพื่ออุ้มท้องสืบสายเผ่าพันธุ์

นับเป็นปลาที่มีชีวิตมหัศจรรย์ยิ่งชนิดหนึ่ง เรียกว่าในหนึ่งชีวิตจะได้ผ่านรสชาติของทุกเพศทุกวัยอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม ไม่ต้องมีความได้เปรียบเสียเปรียบทางเพศแต่อย่างใด หากเจ้าปลาไหลริบบิ้นตัวไหนตอนวัยหนุ่มที่ใช้ชีวิตเป็นตัวผู้แล้วมีนิสัยเกเรเจ้าชู้ ชอบเอาเอารัดเอาเปรียบสุภาพสตรี อีกไม่ช้าไม่นานกรรมก็จะสนอง เมื่อตนเองต้องเปลี่ยนชีวิตมาเป็นผู้หญิงบ้าง

ความจริงถ้าสังคมมนุษย์เราวุ่นวายสับสนมีการกดขี่ทางเพศกันมากนัก ระวังอนาคตธรรมชาติอาจจะลงโทษโดยนำกฎเกณฑ์ชีวิตของเจ้าปลาไหลริบบิ้นมาใช้กับคนดูบ้างคงสนุกพิลึก.

Share the Post: