marinerthai

ฉลามวาฬ ในประเทศไทย

โดยหนังสือพิมพ์ ข่าวสด วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5695

คอลัมน์ คอลัมน์ที่13

ฉลามวาฬเป็นสัตว์หายาก เมื่อโผล่เข้ามาหากินที่ชายฝั่งทะเลระยองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงเป็นข่าวสร้างความตื่นเต้นให้กับนักวิชาการและผู้สนใจ

ฉลามวาฬ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rhincodon typus ชื่อทั่วไป Whale Shark เป็นสัตว์เลือดเย็นจำพวกปลากระดูกอ่อน เช่น เดียวกับปลาฉลาม ใช้เหงือกหายใจ หางอยู่ในแนวตั้งฉาก โบกจากด้านหนึ่ง ไปยังอีกด้านหนึ่ง

จัดเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สถิติที่บันทึกไว้ถึงตัวยาวถึง 21 เมตร

ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามทั่วไป มีอยู่ 2 ประการ

1.ขนาดของหัว โตมาก เมื่อเทียบกับขนาดของลำตัว

2.ช่องปาก อยู่ด้านหน้า แทนที่จะอยู่ด้านล่าง

ฉลามวาฬกินแพลงตอน (Plankton) โดยว่ายน้ำไปเรื่อยๆ อ้าปากที่มีขนาดกว้างใหญ่ ให้น้ำและแพลงตอนที่ลอยอยู่ในน้ำ ไหลผ่านเข้าไปในปาก ที่มีอวัยวะคล้ายหวีหรือขนแปรงถี่ๆ สำหรับกรองแพลงตอนไว้ แล้วปล่อยน้ำออกทางช่องเหงือกข้างลำตัว ฉลามวาฬจึงไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้าย ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ หรือแม้แต่ฝูงปลารอบข้าง

ฉลามวาฬจะมีอายุยืนมากกว่าหนึ่งร้อยปี เริ่มสืบพันธุ์เมื่อมีอายุประมาณ 30 ปีในทะเลลึก เพราะกระทั่งถึงปัจจุบันยังไม่เคยได้รับรายงานว่ามีผู้ใดเคยเห็นการผสมพันธุ์ของฉลามวาฬ

ดูเผินๆ ปลาฉลามวาฬทุกตัวจะเหมือนกันไปหมด แต่ความจริง ฉลามวาฬแต่ละตัวมีลักษณะจำเพาะของตัวเอง คือ

1.ลวดลายและจุดบริเวณหลังช่องเหงือก ฉลามวาฬมีช่องเหงือก ตั้งฉากกับลำตัว จำนวน 5 ช่อง จุดและลวดลาย ต่อจากเหงือกช่องที่ 5 ของฉลามวาฬแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน

2.ขนาด รอยขีดข่วน หรือแผลเป็นที่เกิดขึ้นตามลำตัว ก็สามารถใช้จำแนกฉลามวาฬแต่ละตัวได้เช่นกัน

เพศดูได้จากครีบที่ก้น ถ้ามีแท่งยาวๆ ยื่นออกมาจากครีบก้น 2 แท่ง (Clasper) ถือว่าเป็นตัวผู้ อีกจุดสำคัญ คือลายลำตัวฉลามวาฬหลังช่องเหงือกช่องสุดท้าย (ช่องที่ 5) รวมถึงการสังเกตตำหนิตามลำตัว

ในประเทศไทย ล่าสุดมีพบฉลามวาฬว่ายน้ำเข้ามาหากินชายฝั่งมากขึ้น โดยเฉพาะชายทะเลแถบ จ.ระยอง โดยมีรายงานว่าพบฉลามวาฬถึง 2 ตัวด้วยกันในระยะห่างกันไม่ถึง 6 เดือน ตัวแรกมีขนาดใหญ่ พบเมื่อเดือน ต.ค. 2549 ล่าสุดตัวเล็ก ขนาดเพียง 4 เมตร ว่ายเข้ามาหากินใกล้กับท่าเรือขนส่งสินค้า ในเขต จ.ระยอง

สาเหตุการเข้ามาหากินในเขตน้ำตื้นของปลาฉลามวาฬทั้งสองตัว นักวิชาการด้านสัตว์หายากทางทะเล สันนิษฐานว่า ถ้าไม่หลงทางเข้ามา อาจเป็นได้ว่า ชายฝั่งอ่าวไทยขณะนี้มีความอุดมสมบูรณ์กว่าเดิม ทำให้ปลาฉลามวาฬว่ายเข้ามาหาอาหารมากขึ้น

หรือถ้ามองในแง่ร้าย ก็อาจจะบอกได้ว่า ในน้ำลึกของอ่าวไทย ไม่มีอาหารของฉลามวาฬมากนัก ทำให้พวกมันต้องมาหากินชายฝั่งมากขึ้น

ฉลามวาฬ ( Whale shark – Rhincodon typus ) เป็นสัตว์เลือดเย็นในพวกปลากระดูกอ่อน กลุ่มปลาฉลาม เป็นชนิดเดียวใน Family Rhincodontidae และอยู่ใน Order Orectolobiformes ร่วมกับฉลามเสือดาว ( leopard shark – Stegostoma fasciatum ) และ ฉลามขี้เซา ( Nurse shark – Nebrius ferrugineus )

ฉลามวาฬ ใช้เหงือกในการหายใจ มีช่องเหงือก 5 ช่อง มีครีบอก 2 อัน ครีบหาง 2 อัน และครีบก้น(หาง) 1 อัน หางของฉลามวาฬ อยู่ในแนวตั้งฉาก และโบกไปมาในแนวซ้าย-ขวา แตกต่างจากสัตว์เลือดอุ่นในทะเลที่หางอยู่ในแนวขนานและหายใจด้วยปอด อาทิ วาฬ โลมา พะยูน เป็นต้น

ฉลามวาฬเป็นปลาและสัตว์เลือดเย็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กิน plankton เป็นอาหารเช่นเดียว กับกระเบนราหู ( Manta ray – Manta brevirostris ) แต่มีวิธีการกินที่แตกต่างกันออกไป โดยฉลามวาฬจะว่ายเข้าหาฝูง plankton แล้วอ้าปากหุบน้ำ เข้าไปจากนั้นก็จะใช้ซี่เหงือกกรอง plankton ไว้ ขณะที่ manta จะอ้าปากให้น้ำผ่านตลอดเวลา

ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามที่เรารู้จักกันคือ หัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว และปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง ลักษณะการกินอาหารไม่ใช่ปัจจัยที่นักวิทยาศาสตร์ใช้แบ่งฉลามวาฬออกจากฉลามตัวอื่นๆ เนื่องจากยังมีฉลามอีก 2 ชนิดที่ กิน plankton เป็นอาหารแต่อยู่คนละ order กับฉลามวาฬ

วงจรชีวิต ฉลามวาฬเป็นสัตว์ที่มีวงจรชีวิตลึกลับ เท่าที่มีรายงานทราบว่าฉลามวาฬมีอายุยืนมาก จากรายงานของประเทศออสเตรเลียพบว่าฉลามวาฬจะเริ่มสืบพันธุ์ เมื่ออายุ 30 ปี หากเปรียบเทียบช่วงอายุการสืบพันธุ์กับฉลามอื่นใน Order เดียวกันแล้ว พบว่าฉลามวาฬอาจมีอายุถึง 100 ปี ไม่เคยมีใครเห็นฉลามวาฬผสมพันธุ์ในน้ำ แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นในทะเลลึกนอกจากนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัดฉลามวาฬออกลูกเป็นตัวหรือเป็นไข่

Share the Post: