ภาค ข
แนวทางสำหรับบทบัญญัติของบทที่
11-2
ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล
1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม
และภาค ก ของประมวลข้อบังคับนี้
(ส่วนที่ 2)
8 การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือ
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัย
8.1
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทรับผิดชอบในการดำเนินการเพื่อให้มีการจัดทำรายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือแต่ละลำในกองเรือของบริษัทซึ่งถูกกำหนดให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของบทที่
11-2 และภาค ก.ของประมวลข้อบังคับนี้ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัท ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทไม่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดในตำแหน่งนี้ด้วยตนเอง
แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทยังมีความรับผิดชอบขั้นสุดท้ายในการดำเนินการเพื่อให้มีการปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอย่างถูกต้องเหมาะสม
8.2
ก่อนที่จะเริ่มจัดทำการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทจะต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับการประเมินภัยคุกคามของท่าเรือที่เรือจะเข้าเทียบท่าหรือที่ผู้โดยสารจะขึ้นหรือลงจากเรือและข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าเรือและมาตรการป้องกันต่าง
ๆ ควรศึกษารายงานฉบับก่อนๆ
ที่เกี่ยวกับความต้องการการรักษาความปลอดภัยที่มีลักษณะคล้ายกัน หากเป็นไปได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทควรพบกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเรือและท่าเรือเพื่อหารือเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายและวิธีการที่ใช้ในการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัย ทั้งนี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทควรปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่รัฐภาคีได้จัดทำไว้
8.3
รายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของบริษัทควรมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรือในเรื่องต่อไปนี้
.1 การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ
.2 ความมั่นคงทางโครงสร้าง
.3 ระบบการป้องกันบุคลากร
.4 นโยบายเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติต่าง
ๆ
.5 ระบบวิทยุและการสื่อสารโทรคมนาคม
รวมทั้งระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย และ
.6 ด้านอื่น ๆ
ที่หากเกิดความเสียหายหรือถูกสอดแนมอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อบุคคล
ทรัพย์สินหรือการปฏิบัติงานบนเรือหรือภายในท่าเรือ
8.4
ผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำรายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรืออาจขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องต่อไปนี้
.1 ความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามและรูปแบบของภัยคุกคามสถานการณ์ความปลอดภัยในปัจจุบัน
.2 ความรู้เกี่ยวกับอาวุธและการตรวจหาอาวุธ
วัตถุและอุปกรณ์ที่เป็นอันตราย
.3 ความรู้เกี่ยวกับลักษณะและรูปแบบพฤติกรรมของบุคคลที่มีแนวโน้มจะเป็นภัยคุกคามต่อสถานการณ์ความปลอดภัยโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ
.4 เทคนิคที่ใช้ในการจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัย
.5 วิธีที่ใช้ในการสร้างสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
.6 ผลของวัตถุระเบิดที่มีต่อโครงสร้างและอุปกรณ์ของเรือ
.7 การรักษาความปลอดภัยของเรือ
.8 วิธีปฏิบัติทางธุรกิจระหว่างเรือกับท่าเรือ
.9 การวางแผนฉุกเฉิน
การเตรียมการและการจัดการในกรณีฉุกเฉิน
.10 การรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ
.11 ระบบวิทยุและโทรคมนาคม
รวมทั้งระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย
.12 วิศวกรรมทางทะเล และ
.13 การปฏิบัติงานของเรือและท่าเรือ
8.5
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทควรจัดหาและจดบันทึกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดทำการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัย
ซึ่งได้แก่
.1 แผนผังทั่วไปของเรือ
.2 ที่ตั้งของพื้นที่ที่ควรจำกัดการเข้าออก
เช่น สะพานเดินเรือ ห้องเครื่องประเภท ก. และสถานีควบคุมอื่น ๆ
ตามที่ระบุไว้ในบทที่ 11-2 เป็นต้น
.3 ที่ตั้งและการทำงานของจุดเข้าออกตัวเรือทั้งที่มีอยู่จริงและที่อาจเป็นไปได้
.4 ความเปลี่ยนแปลงในกระแสน้ำซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจุดอ่อนหรือการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.5 พื้นที่สินค้าและการเตรียมการเพื่อบรรทุกสินค้า
.6 ที่ตั้งของสถานที่เก็บของใช้ประจำเรือและอุปกรณ์บำรุงรักษาเรือที่สำคัญ
.7 ที่ตั้งของสถานที่เก็บสัมภาระ
.8 อุปกรณ์สำหรับกรณีฉุกเฉินและอุปกรณ์สำรองเพื่อให้สามารถให้บริการที่จำเป็นได้
.9 จำนวนคนประจำเรือ
งานด้านการรักษาความปลอดภัยและการจัดฝึกอบรมของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบัน
.10 อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์ความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองผู้โดยสารและคนประจำเรือ
.11 เส้นทางหนีภัยและอพยพและสถานีรวมพลซึ่งจะต้องมีไว้เพื่อให้แน่ใจว่าเรือจะมีการอพยพในกรณีฉุกเฉินอย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย
.12 ข้อตกลงกับบริษัทรักษาความปลอดภัยของเอกชนที่ให้บริการรักษาความปลอดภัยแก่เรือและทางน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน
และ
.13
มาตรการรักษาความปลอดภัยและวิธีปฏิบัติที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งรวมถึงวิธีตรวจสอบและควบคุมระบบการแสดงตัว
อุปกรณ์เตือนภัยและตรวจหา เอกสารหลักฐานบุคคล และระบบการสื่อสารและเตือนภัย ไฟแสงสว่าง
การควบคุมทางเข้าออก ตลอดจนระบบอื่น ๆ
8.6
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือควรตรวจสอบจุดเข้าออกแต่ละจุด
ได้แก่ ดาดฟ้าเปิด (open weather decks) และประเมินความเป็นไปได้ที่ผู้คิดฝ่าฝืนระบบรักษาความปลอดภัยจะใช้จุดเข้าออกดังกล่าว
กรณีนี้จะรวมถึงจุดเข้าออกสำหรับผู้ที่มีสิทธิเข้าออกได้โดยถูกต้องตามกฎหมายและผู้ที่พยายามจะเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
8.7
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือควรพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกันอย่างต่อเนื่องของมาตรการและแนวทางในการรักษาความปลอดภัย
วิธีปฏิบัติ และการปฏิบัติการที่มีในปัจจุบัน ทั้งภายใต้ภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน
และควรกำหนดแนวทางในการรักษาความปลอดภัยซึ่งประกอบด้วย
.1 เขตหวงห้าม
.2 วิธีปฏิบัติในกรณีเกิดเพลิงไหม้หรือกรณีฉุกเฉินอื่น
ๆ
.3 ระดับของการบังคับบัญชาของคนประจำเรือ
ผู้โดยสาร ผู้มาติดต่อ คนขายของ ช่างเทคนิคสำหรับงานซ่อมทำ คนงานท่าเรือ เป็นต้น
.4 ความถี่และประสิทธิผลของยามตรวจการณ์รักษาความปลอดภัย
.5 ระบบควบคุมทางเข้าออก
รวมทั้งระบบการแสดงตัว
.6 ระบบและวิธีปฏิบัติในการสื่อสารด้านการรักษาความปลอดภัย
.7 ประตู สิ่งกีดขวาง
และไฟแสงสว่างที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และ
.8 อุปกรณ์และระบบการรักษาความปลอดภัยและเตือนภัย
หากมี
8.8
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือควรพิจารณาบุคคล
กิจกรรม บริการ และการปฏิบัติการที่สำคัญที่ต้องให้การคุ้มครอง ซึ่งได้แก่
.1 คนประจำเรือ
.2 ผู้โดยสาร ผู้มาติดต่อ
คนขายของ ช่างเทคนิคสำหรับงานซ่อมทำ เจ้าหน้าที่ของท่าเรือ เป็นต้น
.3 ขีดความสามารถในการดูแลให้มีการเดินเรืออย่างปลอดภัยและการดำเนินการต่อกรณีฉุกเฉิน
.4 สินค้า โดยเฉพาะสินค้าอันตรายหรือวัตถุอันตราย
.5 เสบียงเรือ
.6 อุปกรณ์และระบบสื่อสารเพื่อการรักษาความปลอดภัยของเรือ
หากมี และ
.7 อุปกรณ์และระบบเตือนภัยเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของเรือ
หากมี
8.9
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือควรพิจารณาภัยคุกคามที่อาจเป็นไปได้ทั้งหมด
ซึ่งอาจรวมถึงประเภทของเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยดังต่อไปนี้
.1 ความเสียหายหรือการถูกทำลายของเรือหรือท่าเรือ
ซึ่งอาจเกิดจากวัตถุระเบิด การวางเพลิงการก่อวินาศกรรม หรือการกระทำที่ป่าเถื่อน
.2 การจี้หรือยึดเรือหรือจับบุคคลบนเรือ
.3 การลักลอบเปลี่ยนแปลงสินค้า
อุปกรณ์หรือระบบที่สำคัญของเรือ หรือของใช้ประจำเรือ
.4 การเข้าออกหรือการใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งรวมถึงการลักลอบไปกับเรือ
.5 การลักลอบขนอาวุธหรืออุปกรณ์
รวมทั้งอาวุธที่มีฤทธิ์ทำลายล้างสูง
.6 การใช้เรือเพื่อบรรทุกบุคคลซึ่งมีจุดมุ่งหมายจะสร้างสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยและ/หรือบรรทุกอุปกรณ์ของบุคคลดังกล่าว
.7 การใช้เรือนั้นเองเป็นอาวุธหรือเป็นวิธีการเพื่อก่อความเสียหายหรือการทำลายล้าง
.8 การโจมตีจากทะเลขณะที่เรือเทียบท่าหรือทอดสมอ
และ
.9 การโจมตีขณะที่เรือเดินทางอยู่กลางทะเล
8.10
การประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือควรพิจารณาจุดอ่อนที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ซึ่งอาจได้แก่
.1 ความขัดแย้งกันระหว่างมาตรการความปลอดภัยและมาตรการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.2 ความขัดแย้งกันระหว่างหน้าที่บนเรือและการมอบหมายงานด้านการรักษาความปลอดภัย
.3 หน้าที่การเข้ายาม
จำนวนคนประจำเรือ โดยเฉพาะสิ่งที่อาจบ่งชี้ถึงความเหนื่อยล้า ความพร้อมปฏิบัติงาน
และการปฏิบัติงานของคนประจำเรือ
.4 การขาดการฝึกอบรมที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย
และ
.5 อุปกรณ์และระบบการรักษาความปลอดภัยอื่น
ๆ รวมทั้งระบบการสื่อสาร
8.11
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเรือควรตระหนักถึงผลของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีต่อคนประจำเรือซึ่งต้องอยู่บนเรือเป็นเวลานาน ในการจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัย
ควรพิจารณาถึงความสะดวกสบาย
และความเป็นส่วนตัวของคนประจำเรือและความสามารถในการรักษาระดับการปฏิบัติงานของคนประจำเรือในระยะยาวด้วย
8.12
เมื่อทำการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือแล้วเสร็จ
จะต้องจัดทำรายงานซึ่งประกอบด้วยบทสรุปเกี่ยวกับวิธีจัดทำการประเมิน
คำอธิบายเกี่ยวกับจุดอ่อนแต่ละข้อที่พบระหว่างการประเมิน
และคำอธิบายถึงมาตรการแก้ไขจุดอ่อนแต่ละข้อ
โดยจะต้องเก็บรักษารายงานดังกล่าวไว้ไม่ให้มีการเข้าถึงหรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
8.13
ถ้าบริษัทเรือไม่ได้จัดทำรายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือเอง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทจะต้องทบทวนและรับรองรายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือดังกล่าว
การสำรวจในขณะที่มีการรักษาความปลอดภัย
8.14
การสำรวจในขณะที่มีการรักษาความปลอดภัยถือเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือ
การสำรวจในขณะที่มีการรักษาความปลอดภัยควรเป็นการตรวจสอบและประเมินมาตรการ
วิธีปฏิบัติ และการปฏิบัติการป้องกันบนเรือ เพื่อ
.1 ให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยของเรือครบถ้วน
.2 ควบคุมดูแลเขตหวงห้ามเพื่อให้แน่ใจว่ามีเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าออกได้
.3 ควบคุมการเข้าออกตัวเรือ
ซึ่งรวมถึงระบบการแสดงตัว
.4 ควบคุมพื้นที่บนดาดฟ้าและพื้นที่รอบตัวเรือ
.5 ควบคุมการขึ้นไปบนเรือของบุคคลและสัมภาระ
(สัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัว
และของใช้ส่วนตัวของคนประจำเรือ)
.6 อำนวยการเกี่ยวกับการขนถ่ายสินค้าและการส่งของใช้ประจำเรือ
และ
.7 ให้แน่ใจว่ามีการสื่อสาร
ข้อมูล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของเรือที่พร้อม
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
บททั่วไป
9.1
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการเพื่อให้มีการจัดทำและเสนอเพื่อขออนุมัติแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
เนื้อหาสาระของแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือแต่ละฉบับควรจะแตกต่างกัน ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับ (รายละเอียดของ) เรือแต่ละลำที่ระบุไว้ในแผนนั้น
การประเมินสถานการณ์การรักษาความปลอดภัยของเรือต้องระบุถึงลักษณะเฉพาะของเรือตลอดจนภัยคุกคามและจุดอ่อนที่คาดว่าจะมี ในการเตรียมจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องระบุถึงลักษณะเหล่านี้ในรายละเอียด
ทางการอาจให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมจัดทำและเนื้อหาสาระของแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือด้วย
9.2
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือควร
.1 มีรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรของการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.2 มีรายละเอียดความสัมพันธ์ของเรือกับบริษัทเรือ ท่าเรือ เรือลำอื่น ๆ และหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย
.3 มีรายละเอียดของระบบสื่อสารเพื่อให้มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและต่อเนื่องภายในเรือ และระหว่างเรือกับฝ่ายต่าง ๆ
ตลอดจนท่าเรือต่างๆ
.4 มีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นฐานสำหรับระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่
1 ทั้งในการปฏิบัติการและทางกายภาพ
ซึ่งจะต้องมีอยู่ตลอดเวลา
.5 มีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมซึ่งทำให้เรือสามารถเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยเป็นระดับที่
2 ได้โดยไม่ชักช้าและในกรณีที่มีความจำเป็น
เรือสามารถเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยเป็นระดับที่ 3 ได้
.6 จัดให้มีการทบทวน
หรือการตรวจสอบแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือและข้อแก้ไขของแผนดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองกับประสบการณ์หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
และ
.7 มีรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีรายงานผลให้ผู้ประสานงานของรัฐภาคีทราบ
9.3
การจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องดำเนินการบนพื้นฐานของการประเมินประเด็นต่าง
ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีความเข้าใจลักษณะทางกายภาพและการดำเนินการ
รวมถึงรูปแบบการเดินทางของเรือแต่ละลำ
9.4
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือทั้งหมดต้องได้รับอนุมัติจากทางการ
หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนทางการ
ถ้าทางการให้องค์กรรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับเป็นผู้ตรวจสอบหรืออนุมัติแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
องค์กรรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับนั้นจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับอื่น
ที่ได้จัดทำหรือช่วยเหลือในการจัดทำแผนดังกล่าว
9.5
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเรือต้องจัดทำขั้นตอนการปฏิบัติต่าง
ๆ เพื่อ
.1 ประเมินประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องของแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.2 จัดทำข้อแก้ไขของแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือที่ได้รับอนุมัติแล้ว
9.6
มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ระบุไว้ในแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีพร้อมที่จะนำมาใช้เมื่อมีการตรวจสอบเบื้องต้นในการปฎิบัติตามข้อกำหนดของบทที่
11 – 2 และภาค ก. ของประมวลข้อบังคับนี้
มิฉะนั้นจะไม่สามารถดำเนินการออกใบสำคัญรับรองการรักษาความปลอดภัยของเรือระหว่างประเทศให้แก่เรือลำนั้นได้
หากอุปกรณ์หรือระบบการรักษาความปลอดภัยเกิดความล้มเหลวในภายหลังหรือมีการระงับใช้าตรการการรักษาความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุใดก็ตาม จะต้องนำมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ให้ผลเท่ากันมาใช้เป็นการชั่วคราวโดยจะต้องแจ้งและขอความเห็นชอบจากทางการด้วย
การจัดโครงสร้างและปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของเรือ
9.7
นอกเหนือจากแนวทางที่กำหนดไว้ในวรรคที่ 9.2 แล้ว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับระดับการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดดังนี้
.1 หน้าที่และความรับผิดชอบของคนประจำเรือทั้งหมดที่มีบทบาทในการรักษาความปลอดภัย
.2 ขั้นตอนการปฏิบัติหรือการป้องกันที่จำเป็นเพื่อให้มีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
.3 ขั้นตอนการปฏิบัติที่จำเป็นต้องใช้ในการประเมินประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องของขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อการรักษาความปลอดภัยตลอดจนอุปกรณ์และระบบการรักษาความปลอดภัยและเตือนภัยต่าง
ๆ
รวมทั้งขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อค้นหาและแก้ไขความล้มเหลวหรือการทำงานผิดปกติของอุปกรณ์หรือระบบดังกล่าว
.4 ขั้นตอนการปฏิบัติและวิธีปฏิบัติเพื่อเก็บรักษาข้อมูลพิเศษที่เกี่ยวกับการรักษาความ
ปลอดภัยซึ่งอยู่ในรูปแบบเอกสารหรืออิเล็กทรอนิค
.5 ประเภทและข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์และระบบเตือนภัย หากมี
.6 ขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ
เพื่อให้มีการนำเสนอ และการประเมิน
รายงานที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนการรักษาความปลอดภัยหรือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทันเวลา
.7 ขั้นตอนการปฏิบัติในการจัดให้มีการเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอันตรายหรือสารอันตรายที่บรรทุกอยู่บนเรือ
รวมทั้งบริเวณที่ตั้งของสินค้าดังกล่าวให้ทันสมัย
9.8
ข้อกำหนดที่เหลือของส่วนที่ 9
ระบุถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาความปลอดภัยแต่ละระดับซึ่งครอบคลุมถึง
.1 การเข้าถึงตัวเรือโดยคนประจำเรือ ผู้โดยสาร ผู้มาติดต่อ ฯลฯ
.2 เขตหวงห้ามบนเรือ
.3 การขนถ่ายสินค้า
.4 การส่งของใช้ประจำเรือ
.5 การขนถ่ายสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัว
.6 การกำกับดูแลการรักษาความปลอดภัยของเรือ
การเข้าถึงตัวเรือ
9.9
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมการเข้าถึงตัวเรือด้วยวิธีต่างๆตามที่ได้ระบุไว้ในรายงานการประเมินสถานการณ์การรักษาความปลอดภัยของเรือ
ซึ่งได้แก่
.1 บันไดเชือก
.2 บันไดขึ้น/ลงเรือ
.3 สะพานพาดท้องเรือ
.4 ประตู ทางระบายน้ำบนดาดฟ้าข้างเรือ หน้าต่างและช่องทางอื่น ๆ
.5 เชือกผูกเรือและโซ่สมอ
.6 ปั้นจั่นและรอกต่าง ๆ
9.10
สำหรับทางเข้าสู่ตัวเรือแต่ละทางเหล่านี้
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องระบุสถานที่ตั้งที่เหมาะสมที่ซึ่งควรจะมีการจำกัดหรือห้ามเข้าสำหรับระดับการรักษาความปลอดภัยแต่ละระดับ
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดประเภทของการจำกัดหรือการห้ามเข้าตลอดจนวิธีใช้บังคับสำหรับระดับการรักษาความปลอดภัยแต่ละระดับด้วย
9.11
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดวิธีแสดงตัวสำหรับระดับการรักษาความปลอดภัยของแต่ละระดับเพื่อให้อนุญาตบุคคลต่างๆเข้าถึงตัวเรือและอยู่บนเรือโดยไม่ก่อเหตุอันตรายใดๆ
โดยอาจจัดทำระบบการแสดงตัวที่เหมาะสมเพื่อให้มีการแสดงตัวแบบถาวรหรือชั่วคราว สำหรับคนประจำเรือและผู้มาติดต่อ
ระบบการแสดงตัวของเรือควรมีการประสานกับระบบการแสดงตัวของท่าเรือหากสามารถกระทำได้
ผู้โดยสารต้องสามารถแสดงตัวด้วยใบอนุญาตให้ขึ้นเรือ ตั๋วโดยสาร ฯลฯ
แต่ไม่ควรได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตหวงห้ามนอกจากจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแล
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีข้อกำหนดเพื่อให้มีการปรับปรุงระบบการแสดงตัวให้ทันสมัยอยู่เสมอ
และการละเมิดขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเคร่งครัด
9.12
ผู้ที่ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถแสดงหลักฐานการแสดงตัว
และ/หรือยืนยันจุดมุ่งหมายของการมาติดต่อเมื่อมีการร้องขอ
ต้องถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นบนเรือและควรรายงานให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเรือ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัท เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำท่าเรือ
และหน่วยงานระดับชาติหรือท้องถิ่นที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทราบด้วย
9.13
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดความถี่ของการใช้ระบบควบคุมการเข้าถึงเรือไว้ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการนำแผนดังกล่าวมาใช้แบบสุ่มหรือเป็นครั้งคราว
การรักษาความปลอดภัยระดับที่
1
9.14
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการเข้าถึงเรือ
ซึ่งอาจใช้วิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้
.1 ตรวจสอบเอกสารการแสดงตัวของคนทุกคนที่ขอขึ้นเรือและยืนยันขอทราบเหตุผลในการขอขึ้นเรือโดยการตรวจสอบเอกสารต่างๆ
เช่น คำสั่งให้ร่วมเดินทางไปกับเรือ
ตั๋วโดยสาร ใบอนุญาตขึ้นเรือ
ใบสั่งงาน ฯลฯ
.2 เรือต้องมีการประสานงานกับท่าเรือเพื่อให้มีการกำหนดพื้นที่รักษาความปลอดภัยไว้โดยเฉพาะเพื่อใช้ในการตรวจสอบและค้นหาบุคคล สัมภาระ (รวมถึงสิ่งของที่สามารถหิ้วถือไปได้)
ของใช้ส่วนตัว
ยานพาหนะและส่วนประกอบ
.3 เรือต้องมีการประสานงานกับท่าเรือเพื่อให้มีการตรวจค้นยานพาหนะที่จะบรรทุกไปกับเรือบรรทุกรถ เรือโร-โร และเรือโดยสารต่าง ๆ
ก่อนที่จะบรรทุกขึ้นเรือ เพื่อให้เป็นไปตามความถี่
ที่กำหนดไว้ในแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.4 การแยกตรวจสอบบุคคลและของใช้ส่วนตัวของแต่ละบุคคล
ออกจากบุคคลและของใช้ส่วนตัวที่ไม่ต้องรับการตรวจสอบ
.5 การแยกผู้โดยสารที่ขึ้นไปบนเรือออกจากผู้โดยสารที่ลงจากเรือ
.6 การกำหนดจุดเข้า-ออกที่ควรมีการรักษาความปลอดภัยหรือเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการผ่านเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
.7 การรักษาความปลอดภัยจุดเข้าออกบริเวณที่ไม่มีการเฝ้าระวัง
ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณที่มีผู้โดยสารหรือผู้มาติดต่อผ่านเข้าไปได้โดยอาจใช้วิธีปิดล็อคหรือวิธีอื่นๆ
.8 การจัดให้มีการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยแก่คนประจำเรือ
เพื่อให้ทราบถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้
ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับการรายงานเมื่อพบบุคคล สิ่งของหรือการกระทำที่ต้องสงสัย
และความจำเป็นในการเฝ้าระวัง
9.15
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
ผู้ที่ประสงค์จะขึ้นไปบนเรือทุกคนจะต้องได้รับการตรวจค้น ความถี่ของการตรวจค้นดังกล่าวซึ่งรวมถึงการสุ่มตรวจจะต้องกำหนดไว้ในแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือที่ได้รับอนุมัติและหากจะให้ได้ผลดีที่สุดควรเป็นการดำเนินการโดยท่าเรือร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเรือ
หากไม่มีมูลเหตุเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่ชัดเจน
ไม่ควรให้คนประจำเรือตรวจค้นผู้ร่วมงานหรือของใช้ประจำตัว
การตรวจค้นดังกล่าวต้องกระทำโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและรักษาเกียรติภูมิของมนุษย์ขั้นพื้นฐานอย่างเคร่งครัด
การรักษาความปลอดภัยระดับที่
2
9.16
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2 แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้มีการเฝ้าระวังมากขึ้นและมีการควบคุมเข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การจัดและมอบหมายเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อตรวจการณ์บริเวณดาดฟ้าเรือในยามวิกาล
เพื่อป้องกันการเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
.2 การจำกัดจำนวนจุดเข้า-ออกบนเรือ
การกำหนดจุดเข้า-ออกที่จะต้องปิด
และวิธีปิดกั้นจุดเข้าออกดังกล่าวที่มีความแน่นหนาเพียงพอ
.3 การยับยั้งการบุกรุกขึ้นบนเรือจากทางน้ำ โดยมีการประสานงานกับท่าเรือ
การจัดให้มีเรือตรวจการณ์
.4 การกำหนดเขตหวงห้ามบนฝั่งที่เรือจอดเทียบท่า
โดยร่วมมือปฏิบัติงานกับท่าเรืออย่างใกล้ชิด
.5 การเพิ่มความถี่และรายละเอียดในการตรวจค้นบุคคล
ของใช้ประจำตัวและยานพาหนะที่ขึ้นหรือบรรทุกบนเรือ
.6 การดูแลอำนวยความสะดวกผู้มาติดต่อบนเรือ
.7 การจัดให้มีการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยแก่คนประจำเรือเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ตรวจพบ
การย้ำถึงความสำคัญของขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อรายงานเกี่ยวกับบุคคล
สิ่งของหรือการกระทำที่ต้องสงสัย
และการย้ำถึงความจำเป็นในการเพิ่มการเฝ้าระวัง และ
.8 การดำเนินการตรวจค้นเรือทั้งหมดหรือบางส่วน
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.17
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
เรือต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดของมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเรือจะต้องนำไปปฏิบัติ
โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวและท่าเรือซึ่งอาจรวมถึง
.1 การจำกัดจุดผ่านเข้า-ออกให้เหลือจุดควบคุมเพียงจุดเดียว
.2 การอนุญาตให้ผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยผ่านจุดเข้า-ออกเท่านั้น
.3 การควบคุมอำนวยการคนบนเรือ
.4 การสั่งห้ามขึ้นหรือลงจากเรือ
.5 การสั่งระงับการปฎิบัติการขนถ่ายหรือส่งสินค้า
.6 การอพยพออกจากเรือ
.7 การแล่นเรือ
.8 การเตรียมการเพื่อตรวจค้นเรือทั้งหมดหรือบางส่วน
เขตหวงห้ามบนเรือ
9.18
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดเขตหวงห้ามที่จะต้องจัดให้มีบนเรือ
กำหนดขอบเขตของเขตหวงห้าม เวลาที่จะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมจุดผ่านเข้า-ออก
และเพื่อควบคุมกิจกรรมต่างๆภายในเขตหวงห้ามดังกล่าว
จุดมุ่งหมายของการกำหนดเขตหวงห้าม คือ
.1 เพื่อป้องกันการผ่านเข้าถึงเรือโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
.2 เพื่อคุ้มครองผู้โดยสาร
คนประจำเรือและเจ้าหน้าที่จากท่าเรือหรือหน่วยงานอื่นๆที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบนเรือได้
.3 เพื่อปกป้องดูแลบริเวณที่ต้องการการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษและ
.4 เพื่อปกป้องดูแลสินค้าและของใช้ประจำเรือจากการเข้าเปยุ่งเกี่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.19
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีนโยบายและวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อควบคุมทางเข้าเขตหวงห้ามทั้งหมด
9.20
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้เขตหวงห้ามทั้งหมด แสดงเครื่องหมายที่ชัดเจน
เพื่อแสดงว่าทางเข้าไปยังบริเวณดังกล่าวถูกจำกัด
และการเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นการฝ่าฝืนการรักษาความปลอดภัย
9.21
เขตหวงห้ามอาจรวมถึง
.1 สะพานเดินเรือ
พื้นที่บริเวณห้องเครื่องจักรต่าง ๆ ตามประเภท ก และสถานีควบคุมอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในบทที่ 2-2
.2 พื้นที่ต่าง ๆ
ที่มีอุปกรณ์และระบบการรักษาความปลอดภัยและเตือนภัย และระบบควบคุมแสงสว่าง
.3 ระบบระบายอากาศและระบบปรับอากาศ
และพื้นที่อื่น ๆ ที่มีลักษณะ เดียวกัน
.4 พื้นที่ที่มีทางเข้าถึง ถังน้ำแบบเคลื่อนที่ได้ ปั๊มน้ำ หรือท่อร่วมต่าง ๆ
.5 พื้นที่จัดเก็บสินค้าอันตรายหรือวัตถุที่อันตราย
.6 พื้นที่จัดเก็บท่อสินค้า
และระบบควบคุม
.7 พื้นที่จัดเก็บสินค้า
และพื้นที่จัดเก็บของใช้ประจำเรือ
.8 ที่พักอาศัยของคนประจำเรือ
.9 พื้นที่อื่น ๆตาม
ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทกำหนดไว้ในรายงานการประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเรือซึ่งต้องจำกัดทางเข้า
เพื่อให้มีการรักษาความปลอดภัยของเรือ
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
9.22
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ
เพื่อใช้กับเขตหวงห้ามซึ่งอาจรวมถึง
.1 การปิดล็อคหรือควบคุมจุดทางเข้าต่าง
ๆ
.2 การใช้อุปกรณ์เตือนภัยต่าง
ๆ เพื่อควบคุมเขตหวงห้าม
.3 การใช้ยามหรือการตรวจการณ์ต่าง
ๆ
.4 การใช้เครื่องมือตรวจจับการบุกรุกโดยอัตโนมัติเพื่อแจ้งเตือนคนประจำเรือให้ทราบถึงการเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
9.23
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่
2
ต้องมีการเพิ่มความถี่และความเข้มงวดของการกำกับและควบคุมทางเข้าไปยังเขตหวงห้าม
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่เข้าไปเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
ซึ่งอาจรวม
.1 การกำหนดเขตหวงห้ามที่อยู่ติดกับจุดทางเข้า
.2 การกำกับควบคุมอุปกรณ์เตือนภัยอย่างต่อเนื่อง
.3 การจัดบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อเป็นยามตรวจการณ์ในเขตหวงห้าม
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.24
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่
3
เรือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำที่กำหนดโดยผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เรือสามารถนำมาใช้
โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ที่รับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวและท่าเรือ
ซึ่งอาจรวม
.1 การกำหนดเขตหวงห้ามเพิ่มเติมบนเรือในบริเวณที่อาจเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความ
ปลอดภัย หรือที่ตั้งที่เชื่อว่าจะมีภัยคุกคามต่อการรักษาความปลอดภัย
.2 การตรวจค้นเขตหวงห้ามโดยเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจค้นเรือ
การขนถ่ายสินค้า
9.25
มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับการขนถ่ายสินค้าจะต้อง
.1 ป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
.2 ป้องกันไม่ให้มีการรับและเก็บรักษาสินค้าที่ไม่ได้กำหนดให้บรรทุกโดยเรือลำนั้น
ไว้บนเรือ
9.26
มาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งมีมาตรการบางอย่างที่อาจนำมาใช้โดยประสานงานกับท่าเรือจะต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อควบคุมสินค้าที่เก็บอยู่ในคลังของเรือที่จุดทางเข้าของเรือ
เมื่อยกขนสินค้าขึ้นมาบนเรือแล้ว ต้องสามารถระบุได้ว่าสินค้าดังกล่าวได้รับการอนุมัติให้บรรทุกลงเรือ
อีกทั้งจะต้องจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัย
ในทางที่ให้เกิดความแน่ใจว่าสินค้าที่บรรทุกลงเรือแล้วนั้นไม่มีผู้เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
9.27
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ใช้ระหว่างการขนถ่ายสินค้า
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การตรวจสอบสินค้า
หน่วยการขนส่งสินค้า
และพื้นที่วางสินค้าทั้งก่อนและระหว่างการปฏิบัติการขนถ่ายสินค้าเป็นประจำ
.2 การตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่บรรทุกลงเรือนั้นมีรายละเอียดตรงกับเอกสารกำกับสินค้า
.3 การดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าในการประสานงานกับท่าเรือ
ยานพาหนะที่บรรทุกลงเรือบรรทุกรถ
เรือโรโรและเรือโดยสารจะต้องถูกตรวจค้นก่อนบรรทุกลงเรือตามความถี่ของเวลาตามที่กำหนดไว้ในแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
.4 การตรวจสอบการปิดผนึกหรือวิธีการอื่น
ๆ เพื่อป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.28
การตรวจสอบสินค้าอาจจะกระทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
.1 การตรวจสอบด้วยสายตาหรือการตรวจสอบทางกายภาพ
.2 การใช้อุปกรณ์ตรวจหาหรือตรวจจับ
อุปกรณ์เครื่องกล หรือสุนัขดมกลิ่น
9.29
เมื่อมีการขนย้ายสินค้าตามปกติหรือขนย้ายบ่อยๆ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัท
หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเรืออาจปรึกษาหารือกับท่าเรือและเห็นชอบให้มีการจัดการให้ผู้ส่งสินค้า
ผู้ที่รับผิดชอบในสินค้า ดำเนินการตรวจสอบนอกสถานที่ ปิดผนึก จัดทำตารางการขนส่ง จัดเตรียมเอกสารที่ใช้ในการขนส่ง เป็นต้น การจัดการต่าง ๆ เหล่านี้
ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำท่าเรือที่เกี่ยวข้องทราบและให้ความเห็นชอบด้วย
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
9.30
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อใช้ระหว่างการขนถ่ายสินค้าซึ่งอาจรวมถึง
.1 การตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า
หน่วยของการขนส่งสินค้าและพื้นที่วางสินค้า
.2 การตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่ามีเฉพาะสินค้าที่จะทำการขนส่งทางน้ำเท่านั้นที่บรรทุกลงเรือ
.3 การตรวจค้นยานพาหนะที่จะบรรทุกบนเรือบรรทุกรถ
เรือโรโร และเรือโดยสารอย่างเข้มงวด
.4 การเพิ่มความถี่และรายละเอียดในการตรวจสอบผนึกหรือวิธีอื่น
ๆ ที่ใช้ เพื่อป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.31
การตรวจสอบสินค้าในรายละเอียดอาจดำเนินการด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
.1 การเพิ่มความถี่และรายละเอียดของการตรวจสอบด้วยสายตาและทางกายภาพ
.2 การเพิ่มความถี่ของการใช้อุปกรณ์ตรวจหา
หรือตรวจจับ อุปกรณ์เครื่องกลหรือสุนัขดมกลิ่น
.3 การประสานมาตรการรักษาความปลอดภัยกับผู้ส่งสินค้า
หรือฝ่ายที่รับผิดชอบอื่น ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงและขั้นตอนการปฏิบัติที่กำหนดไว้
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.32
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
เรือจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเรือสามารถนำมาใช้
โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้รับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวและท่าเรือ
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การระงับการบรรทุกสินค้าลงเรือหรือการขนถ่ายสินค้าขึ้นจากเรือ
.2 การตรวจสอบปริมาณสินค้าอันตราย
และวัตถุอันตรายที่บรรทุกอยู่บนเรือและสถานที่ตั้งของสินค้าหรือสารอันตรายดังกล่าว
การจัดส่งของใช้ประจำเรือ
9.33
มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งของใช้ประจำเรือจะต้อง
.1 มีดำเนินการตรวจสอบของใช้ประจำเรือ
และความสมบูรณ์ของหีบห่อ
.2 ป้องกันไม่ให้มีการรับของใช้ประจำเรือโดยไม่มีการตรวจสอบ
.3 ป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
.4 ป้องกันไม่ให้มีการรับของใช้ประจำเรือโดยที่ไม่มีการสั่งซื้อ
9.34
สำหรับเรือที่เข้าเทียบท่าเรืออย่างสม่ำเสมออาจกำหนดให้มีขั้นตอนการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับเรือผู้จัดหาสินค้าและท่าเรือโดยให้ครอบคลุมถึงการแจ้งเวลาส่งมอบตลอดจนการออกเอกสารที่เกี่ยวข้อง
โดยจะต้องมีวิธีการเพื่อยืนยันว่าของใช้ประจำเรือที่ส่งมามีหลักฐานการสั่งซื้อแนบมาด้วย
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
9.35
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อนำมาใช้ระหว่างการส่งมอบของใช้ประจำเรือ
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าของใช้ประจำเรือที่ส่งมาตรงกับคำสั่งซื้อ
ก่อนที่จะมีการบรรทุกลงเรือ
.2 การดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดเก็บของใช้ประจำเรือไว้ในพื้นที่
ที่มีการรักษาความปลอดภัยของเรือทันที
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
9.36
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2 แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ระหว่างการจัดส่งของใช้ประจำเรือโดยมีการตรวจสอบก่อนที่จะรับของใช้ประจำเรือขึ้นบนเรือและมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.37
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3 เรือจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเรือสามารถนำมาใช้
โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยและท่าเรือ
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การกำหนดให้มีการตรวจสอบของใช้ประจำเรือมากกว่าเดิม
.2 การเตรียมการเพื่อจำกัดหรือระงับการขนถ่ายของใช้ประจำเรือ
.3 การปฏิเสธไม่รับของใช้ประจำเรือขึ้นบนเรือ
การขนถ่ายสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัว
9.38
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จะนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัว(
เช่น กระเป๋าเดินทาง รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของบุคคล
ซึ่งไม่ได้อยู่กับผู้โดยสารหรือลูกเรือที่จุดตรวจสอบหรือตรวจค้น)
มีการระบุเจ้าของและมีการตรวจตามความเหมาะสมซึ่งรวมถึงการตรวจค้น
ก่อนที่จะมีการยอมรับให้บรรทุกบนเรือ
แต่ไม่ได้หมายความว่าสัมภาระดังกล่าวจะได้ต้องรับการตรวจทั้งจากเรือและท่าเรือและในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจที่เหมาะสม
ความรับผิดชอบในการตรวจควรเป็นของท่าเรือ
ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับท่าเรือเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรมีการนำขั้นตอนต่าง ๆ
มาใช้เพื่อให้แน่ใจว่า
สัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวมีการขนถ่ายขึ้นเรืออย่างปลอดภัยหลังจากการตรวจแล้ว
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
9.39
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย
เพื่อนำมาใช้เมื่อมีการขนย้ายสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวเพื่อให้แน่ใจว่าสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวถูกตรวจหรือค้นซึ่งอาจรวมทั้งมีการตรวจสัมภาระดังกล่าวทั้งหมดโดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์
100 %
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
9.40
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2 แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือ
จะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อนำมาใช้เมื่อมีการขนถ่ายสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวซึ่งอาจรวมถึงการตรวจสัมภาระดังกล่าวทั้งหมดโดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์
100%
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.41
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
เรือต้องจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเรือสามารถนำมาใช้โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวและท่าเรือ
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การกำหนดให้มีการตรวจสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องเอ็กซเรย์ตรวจสัมภาระนั้น อย่างน้อยสองมุม
.2 การเตรียมการเพื่อจำกัดหรือระงับการขนถ่ายสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัว
.3 การปฏิเสธที่ไม่รับสัมภาระที่บุคคลไม่ได้ถือไปกับตัวบรรทุกบนเรือ
การกำกับดูแลการรักษาความปลอดภัยของเรือ
9.42
เรือต้องมีความสามารถในการกำกับดูแล
เขตหวงห้ามบนเรือและพื้นที่รอบตัวเรือ
ความสามารถในการกำกับดูแลเช่นว่านี้อาจรวมถึงการใช้
.1 ไฟแสงสว่าง
.2 ผู้เข้าเวรยาม
ยามรักษาความปลอดภัยและยามฝ่ายเดินเรือ รวมถึงยามตรวจการณ์
.3 เครื่องมือตรวจหาการบุกรุกโดยอัตโนมัติและอุปกรณ์เตือนภัยต่างๆ
9.43
เมื่อมีการใช้เครื่องมือตรวจหาการบุกรุกโดยอัตโนมัติควรใช้สัญญาณเตือนภัยที่ส่งเสียงเตือนและ/หรือสามารถมองเห็นได้กับบริเวณที่มีการสอดส่องดูแลอย่างต่อเนื่อง
9.44
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีขั้นตอนการปฏิบัติและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยแต่ละระดับตลอดจนวิธีการที่ทำให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการพิจารณาผลกระทบของสภาพอากาศหรือการตัดระบบไฟฟ้า
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
9.45
ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 1
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งอาจประกอบด้วยไฟแสงสว่าง ผู้เข้าเวรยาม
ยามรักษาความปลอดภัยหรืออุปกรณ์เตือนภัยร่วมกัน เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือสามารถสังเกตการณ์สภาพทั่วไปของเรือโดยเฉพาะสิ่งกีดขวางและเขตหวงห้าม
9.46
จะต้องมีการเปิดไฟแสงสว่างบนดาดฟ้าและจุดทางเข้าต่าง
ๆ ของเรือในยามวิกาล และในช่วงที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ
ขณะที่มีการปฏิบัติการระหว่างเรือและท่าเรือ
หรือเมื่ออยู่ในท่าเรือหรือขณะกำลังจอดทอดสมอเมื่อมีความจำเป็น ขณะที่อยู่ระหว่างการเดินทางหากจำเป็นเรือจะต้องใช้ไฟแสงสว่างเท่าที่มีอยู่ให้มากที่สุดเพื่อให้สามารถเดินเรือได้อย่างปลอดภัย
ตามข้อกำหนดของกฎข้อบังคับระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันเรือโดนกัน การกำหนดระดับและสถานที่ตั้งของไฟแสงสว่างที่เหมาะสมควรมีข้อพิจารณาดังต่อไปนี้
.1 คนประจำเรือต้องสามารถตรวจพบกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นนอกตัวเรือได้ทั้งบนฝั่งและในน้ำ
.2 รัศมีของไฟแสงสว่างต้องครอบคลุมพื้นที่บนเรือและรอบตัวเรือ
.3 รัศมีของไฟแสงสว่างจะต้องอำนวยความสะดวกในการแสดงตัวที่จุดทางเข้าต่าง
ๆ
.4 การจัดให้มีแสงไฟสว่างที่เพียงพออาจกระทำได้โดยการประสานงานกับท่าเรือ
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2
9.47
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 2 แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการกำกับดูแลและการเฝ้าระวัง
ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การเพิ่มความถี่และรายละเอียดของการตรวจการณ์ในการรักษาความปลอดภัย
.2 การเพิ่มรัศมีและความเข้มของไฟแสงสว่างหรือการใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เตือนภัย
.3 การมอบหมายให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
.4 การดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่ามีการประสานงานกับเรือตรวจการณ์ในน้ำและการตรวจการณ์
โดยเจ้าหน้าที่หรือยานพาหนะตรวจการณ์บนฝั่ง
9.48
ไฟแสงสว่างเพิ่มเติมอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความเสี่ยงต่อเหตุการณ์
ที่อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยสูงขึ้น
เมื่อมีความจำเป็นการกำหนดให้มีไฟแสงสว่างเพิ่มขึ้นอาจกระทำได้โดยการประสานงานกับท่าเรือเพื่อให้จัดไฟแสงสว่างบนฝั่งเพิ่มเติม
การรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3
9.49
ที่ระดับการรักษาความปลอดภัยระดับที่ 3 เรือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือภัยคุกคามจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งเรือสามารถนำมาใช้
โดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวและท่าเรือ ซึ่งอาจรวมถึง
.1 การเปิดไฟแสงสว่างทั้งหมดหรือการจัดให้มีไฟแสงสว่างบนเรือตลอดทั้งลำ
.2 การเปิดอุปกรณ์เตือนภัย
บนเรือทั้งหมดที่ช่วยให้สามารถบันทึกกิจกรรม/เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนเรือได้
.3 การจัดให้อุปกรณ์เตือนภัยมีช่วงเวลาในการบันทึกต่อเนื่องนานที่สุด
.4 การเตรียมการสำหรับการตรวจสอบตัวเรือใต้แนวน้ำ
.5 การริเริ่มนำมาตรการต่างๆมาใช้ซึ่ง
รวมถึงการลดรอบการหมุนของใบจักรให้ช้าลงหากสามารถปฏิบัติได้เพื่อขัดขวางการเข้าใกล้ตัวเรือใต้แนวน้ำ
ระดับการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน
9.50
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดรายละเอียดของขั้นตอนการปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง
ๆ ที่เรือสามารถนำมาใช้ได้
หากเรือกำหนดระดับการรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าระดับการรักษาความปลอดภัยที่ใช้ในท่าเรือ
กิจกรรมต่าง
ๆ ที่ไม่อยู่ในบังคับของประมวลข้อบังคับนี้
9.51
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดรายละเอียดของขั้นตอนการปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่าง
ๆ ที่เรือจะต้องปฏิบัติเมื่อ
.1 เรืออยู่ในเมืองท่าของรัฐที่ไม่ใช่รัฐภาคี
.2 เรือกำลังจอดเทียบและปฏิบัติการกับเรือลำอื่นซึ่งไม่อยู่ในบังคับของประมวลข้อบังคับนี้
.3 เรือกำลังจอดเทียบและปฏิบัติการกับแท่นขุดเจาะอยู่กับที่หรือลอยน้ำหรือแท่นขุดเจาะแบบเคลื่อนที่ได้
.4 เรือกำลังจอดเทียบและปฏิบัติการกับท่าเรือหรือท่าเทียบเรือ
ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้ปฏิบัติ ตามบทที่ 11-2 และภาค ก. ของประมวลข้อบังคับนี้
ปฏิญญาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัย
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องขอให้ออกปฏิญญาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยจากท่าเรือและสถานการณ์
ที่เรือควรจะร้องขอให้ออกปฏิญญาดังกล่าว
9.52
แผนการรักษาความปลอดภัยของเรือจะต้องกำหนดวิธีการที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำบริษัทและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเรือสามารถดำเนินการตรวจสอบประสิทธิผลของแผนการรักษาความปลอดภัยของเรืออย่างต่อเนื่องตลอดจนปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อทบทวน
ปรับปรุงหรือแก้ไขแผนการรักษาความปลอดภัยของเรือให้ทันสมัย
§
ข้อกำหนดภาคบังคับเกี่ยวกับบทบัญญัติ ISPS Code ของบทที่
11-2 ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล
ค.ศ.1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม
§
แนวทางสำหรับบทบัญญัติ ISPS Code ของบทที่ 11-2 ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล 1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมและภาค
ก ของประมวลข้อบังคับนี้ (ส่วนที่ 1)
§
แนวทางสำหรับบทบัญญัติ ISPS Code ของบทที่ 11-2
ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล 1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมและภาค
ก ของประมวลข้อบังคับนี้ (ส่วนที่ 2)
§
แนวทางสำหรับบทบัญญัติ ISPS Code ของบทที่ 11-2
ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล 1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมและภาค
ก ของประมวลข้อบังคับนี้ (ส่วนที่ 3)
§
แนวทางสำหรับบทบัญญัติ ISPS Code ของบทที่ 11-2
ของภาคผนวกแนบท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศ
ว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล 1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมและภาค
ก ของประมวลข้อบังคับนี้ (ส่วนที่ 4)
มารีนเนอร์ไทย | MarinerThai.Net |
MarinerThai.Com